การดูแลรักษาต้น กระบองเพชร

ว่าด้วยเรื่องกระบองเพชร 

Cactus หรือคุ้นหูกันในชื่อกระบองเพชร การดูแลรักษาควรคำนึงถึงสภาพอากาศ แสงแดด น้ำ ดินปุ๋ย กระถาง ซึ่งแต่ละพันธุ์นั้นจะมีการดูแลรักษาที่แตกต่างกันออกไปกระบองเพชรนั้นเป็นพืชทะเลทราย ทนต่อสภาพอากาศที่ร้อนได้เป็นอย่างดีและมีหลายสายพันธุ์ กระบองเพชร

 

ลำต้นจะเก็บน้ำไว้จำนวนมาก การอุ้มน้ำจำนวนมากจึงไม่ต้องการน้ำมากเหมือนกับพืชชนิดอื่น ลำต้นมีหนามทำหน้าที่แทนใบลดการคายน้ำ ทำให้ทนทานต่อสภาวะอากาศ แต่หากดูแลรักษาผิดวิธีต้นกระบองเพชร ของเราอาจตายได้ง่ายๆ เนื่องจากเป็นพืชทะเลทราย โดยทั่วไปทะเลทรายจะมีปริมาณน้ำฝนประมาณ 250 มม. / ปี กลางวันอุณหภูมิ 45C/113 F กลางคืน 0C/32และมีอากาศร้อนการระเหยและการคายน้ำค่อนข้างสูงอาจมากกว่าปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาด้วยซ้ำ เราจึงเห็นพียงกระบองเพชรที่ขึ้นอยู่ในทะเลทรายเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเรามีวิธีการดูแลรักษาต้นกระบองเพชร ที่แสนน่ารักมาฝากกัน

 

Cactus

วิธีดูแลรักษา กะบองเพชร

ดินและปุ๋ย

กระบองเพชร ต้องการดินร่วนปนทราย เพราะดินลักษณะนี้จะสามารถระบายน้ำได้ดีไม่เก็บกักน้ำและอุ้มน้ำไว้ปานกลาง ปัจจุบันมีการใช้ปุ๋ยเคมีหรือปุ๋ยวิทยาศาสตร์เพราะหาง่ายและสะดวกในท้องตลาดทั่วไป ส่วนปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมักจะเหมาะกับการปลูกมากกว่าการใช้ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก 0.5 – 1 กก. / ต้น ผสมกับดินในอัตราส่วน 1:3 การใส่ปุ๋ยควรจะใส่ประมาณ 2 เดือนต่อครั้ง หรือ 5-6 ครั้งต่อปี และปลูกลงในกระถางที่พอดีกับต้น อาจตกแต่งด้วยหินหรือกรวดเพื่อเพิ่มความสวยงามตามความต้องการ

  

 

กระถาง

เนื่องจากต้นกระบองเพชรไม่ได้ต้องการพื้นที่ที่กว้างมากนัก การปลูกจะมี 2 ลักษณะคือ ปลูกลงแปลงและปลูกลงกระถาง ซึ่งหากพูดถึงต้นเล็กที่เป็นไม้ประดับ รูปแบบของกระถางที่มีจำหน่ายทั่วไปจึงมีหลายแบบ หลายลักษณะ ดูน่ารักกะทัดรัดแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ที่ปลูก ทั้งแบบกระถางเล็กสำหรับ 1 ต้น ไปจนถึงการปลูกในกระถางเป็นรางยาวซึ่งปลูกรวมกันหลายต้น หากผู้ที่ชื่นชอบเจ้ากระบองเพชรเป็นชีวิตจิตใจก็จะมีการปลูกในโรงเรือนอเนกประสงค์เพื่อควบคุมแสงแดดที่จ้าจนเกินไปสำหรับกระบองเพชรสายพันธุ์เล็กต่างๆ นี้

 

การรดน้ำ

แม้ว่าต้นกระบองเพชร จะสามารถทนทานต่อสภาพอากาสและเก็บกักน้ำได้ดี และเป็นพืชที่เกิดมากในเขตทะเลทราย แต่ก็ยังต้องการน้ำในการหล่อเลี้ยงลำต้น เพียงแค่ต้องการปริมาณที่น้อยเท่านั้น โดยปกติเราอาจจะรดน้ำประมาณอาทิตย์ละครั้ง หรือ 7-10 วันต่อครั้ง การรดน้ำจะให้ตอนเช้าหรือเย็นและไม่ควรให้น้ำตอนแดดจัด กระบองเพชรบางสายพันธุ์ไม่มีหนาม แต่บางสายพันธุ์มีหนามและจะมีหนามมากเมื่อเริ่มมีการคายน้ำ

 

แสงแดด

กระบองเพชรต้องการแสงแดดน้อยและอยู่ในร่ม แต่แล้วทำไมในสารคดีจึงเห็นว่ามันสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้แม้ในทะเลทรายที่แห้งแล้งและแสงแดดจ้า นั่นก็เพราะกระบองเพชรนั้นปรับตัวเข้ากับสภาวะแวดล้อมที่เป็นทะเลทรายได้แล้วตามระบบนิเวศวิทยา ไม่ว่าจะเป็นเขต Hot Desert หรือ Cold Desert แต่กระบองเพชร ที่ขายอยู่ทั่วไปในบ้านเราจะเป็นกระบองเพชร ที่มีขนาดเล็กและเลี้ยงเป็นไม้ประดับสวยงามการปรับตัวจึงต้องอาศัยองค์ประกอบอื่นๆ ด้วย และพิจารณาสายพันธุ์ที่มีความทนทานต่อแสงแดดจ้าอาจจะต้องเป็นขนาดกลางไปถึงขนาดใหญ่ เป็นต้น หากเป็นพันธุ์ประดับจึงควรหลีกเลี่ยงการรับแสงแดดที่จ้าและร้อนจัดจนเกินไป

 

โรคและศัตรูพืช

โดยปกติในการปลูกต้นกระบองเพชร เราจะพบอาการ ลำต้นเหี่ยว รากเน่า แห้งเฉพาะส่วน ลำต้นแคระ เป็นต้น ซึ่งสาเหตุเนื่องมาจากสภาวะแวดล้อมในปัจจุบันและการบำรุงรักษาที่ผิดวิธี เช่น การรดน้ำมากเกินไปทำให้รากเน่า เมื่อรากเน่าก็ไม่สามารถลำเลียงอาหารไปสู่ลำต้นได้ ผลที่ได้คือลำต้นเริ่มเหี่ยวและเฉาไป หากไม่มีการให้ปุ๋ยเลยต้นกระบองเพชร ก็จะแคระแกร็น ไม่ออกดอกในบางสายพันธุ์เพราะขาดการบำรุงรักษาที่ดี นิยมปักชำเพื่อขยายพันธุ์ซึ่งเราสามารถปักชำสำหรับสายพันธุ์ที่มีหลายกิ่ง หรือปลูกใหม่ได้ง่ายดาย

นี่คือวิธีง่ายๆในการดูแลรักษาต้นกระบองเพชร ของเรา ให้ทนทานต่อสภาวะต่างๆและอยู่กับเราได้นานยิ่งขึ้น สำหรับพันธุ์เล็กเหมาะกับการปลูกในกระถางขนาดเล็กตามบ้านเรือน สำนักงาน หรืออาจตั้งประดับบนโต๊ะทำงานก็สวยเก๋ น่ารัก ไปอีกแบบสำหรับสาวกของพืชทะเลทรายคงขาดไม่ได้คือเรื่องความเชื่อถ้าใครปลูกให้ออกดอกได้ อาจได้โชคลาภ เข้ามาโดยไม่รู้ตัวกันเลยทีเดียว ช่วยดูแลกันหน่อยนะ !!

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *